Wizard King ศึกชิงราชันจอมเวทย์
ตอนที่ 3 สิ่งที่ไม่รู้
‘ที่นี่ที่ไหน’ภายในสถานที่ที่มืดสนิด
ไม่เห็นแม้แต่ร่างของตนเอง ไม่เห็นแม้แต่แสงรำไร
ไม่มีแสงสว่างแค่ได้ยินและได้สัมผัสเท่านั้น ที่ยังพอจะรู้สึก
นัยยังคงอยู่ในภวังค์อันมืดมิดที่ไม่อาจจะรู้ได้ว่าคือที่ใด
“นี่คือตัวเจ้าเอง”เสียงดังมาจากในความมืดซึ่งไม่รู้ได้ว่าคือที่ใด
จากนั้นก็มีแสงรางๆออกมาจากฟากฟ้า
เป็นแสงแรกที่ส่องมาจากฟ้าเหมือนเป็นเส้นทางที่จะคอยนำทางนัยไป
“นั่นเสียงของใคร”
“ข้าคือตัวของเจ้าเองเป็นสิ่งที่อยู่ภายในแหวนแห่งฟรีโฮลด”
แสงรำไรทำให้เริ่มเห็นสิ่งที่นัยได้กำลังพูดอยู่ด้วย
ร่างของมังกรตัวใหญ่
สีแดง แววตาเฉียบคมดูดุร้ายแต่แฝงด้วยความอ่อนโยนที่อยู่ภายหน้าของเขา
“ข้า...ข้า เกิดอะไรขึ้นกับข้า”
“เจ้าลืมไปแล้วหรอ ในใจลึกๆของเจ้ารู้อยู่แล้ว ชนะข้าให้ได้เจ้าจะได้พลัง”
“อะไร มันเกิดอะไรขึ้นเจ้ามังกรโปรดบอกข้าเถอะ”
“ชนะข้า สิ่งเดียวที่เจ้าต้องทำและเจ้าจะได้พลังไป พร้อมความทรงจำทั้งหมด”
นัยยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่แต่ต้องจำใจสู้เพื่อความจริงของเขา
นัยเริ่มรวมพลังเวทย์มาไว้ที่มือ
ในห้องมืดนั้นไม่มีสิ่งใดที่พอจะเป็นอาวุธได้จึงใช้ได้เพียงเวทย์พื้นฐานนัยรวมพลังเต็มที่กะจะปิดชีพของเจ้ามังกรในเวทย์เดียว
ตู้ม!!เสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมแสงสว่างวาบขึ้นมา
“เจ้ามีฝีมือแค่นี้เองหรอ”
หางของมังกรนั้นปัดมาทางนัย
นัยจึงต้องรีบเค้นพลังเวทย์มาป้องกันเอาไว้แต่กลับกระเด็นออกไปกว่า10เมตร
“เจ้าลองใช้สมาธิ และควบคุมเวทย์ให้ได้สิ
ให้มันโคจรอยู่ในร่างกายของเราและเค้นมันออกมา
เจ้ามีพรสรรค์แค่ต้องหามันให้พบเท่านั้น”
นัยลองทำตามที่เจ้ามังกรบอก
เขาได้ควบคุมสติและได้รับรู้ถึงพลังที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกาย จึงกล่าวออกไปเมื่อพร้อม
“เข้ามาเลยเจ้ามังกร”นัยพูดอย่างมั่นใจ
“หึ ถึงกับท้าคิดว่าทำได้แล้วสินะ”
เจ้ามังกรพุ่งเข้าไปหาร่างของนัยพร้อมทั้งพ่นพลังเวทย์เป็นไฟออกมา
นัยได้เห็นจึงโคจรพลังเวทย์ไว้แต่กลับยืนนิ่งไม่มีทีท่าว่าจะหลบ
จากนั้นก็มีพลังเวทย์วงกลมสีฟ้า คราวนี้มีสายฟ้าวนอยู่รอบๆวงเวทย์กระจายอยู่รอบตัวของนัยจำนวนมากและก็พุ่งเข้าใส่มังกรรวมกันเป็นหอกสายฟ้าเข้าแทงร่างของมังกร
“ดีมากเจ้าทำได้ดีกว่าที่ข้าคิด ข้าจะมอบพลังให้เจ้าเป็นสิ่งตอบแทน ข้านามว่าเฟท
(fate) แล้วเราจะได้เจอกันอีก”หลังสิ้นเสียงของมังกรนามว่าเฟท
ร่างมังกรเฟทก็เป็นแสงสีขาวหายไปและนัยก็จำเรื่องราวทั้งหมดได้ว่าเขากำลังถูกอสูรรามิรุมทำร้ายอยู่เขาจึงฟื้นจากภวังขึ้น
นัยตื่นขึ้นมาพร้อมกับที่อสูรรามิกำลังกระโดดลอยอยู่กลางอากาศและแสงจากแหวนของนัยได้เปล่งแสงสีส้มเหลืองขึ้นจากนั้นอสูรรามิก็ได้หยุดชะงักลง
นัยยืนขึ้นมาและรวบรวมพลังเวทย์ดั่งที่ใช้กับมังกรเฟทและได้ยิงเวทย์ที่เป็นหอกหลายอันไปยังอสูรรามิต่างๆไปจนหมด
เหตุการณ์กลับมาเป็นปกติอีกครั้งกรยังคงอึ้งกับพลังเวทย์ของนัยแต่ต้องรีบไปคว้างตัวของนัยหลังจากที่นัยล้มสลบลงไป
“อ้าว นัยเป็นอะไรเนี่ย นัย...นัย...นั....”
เสียงสุดท้ายที่นัยยินและได้สลบไปอีกครั้ง
“โอยย”
“นายสลบไปอีกแล้วนะ
เราว่านายควรจะไปฝึกร่างกายให้แข็งแรงและทนต่อเวทย์หน่อยนะ” กรพูดขึ้นหลังจากที่เห็นนัยตื่นขึ้นมา
“เราเป็นอะไรไปอีกล่ะเนี่ย รู้สึกปวดเมื่อยทั้งตัวเลย”นัยพูดขึ้น
“ก็หลังจากที่ใช้พลังเวทย์อะไรก็ไม่รู้ เป็นหอกพุ่งเข้าใส่อสูรรามิ
และมันก็ได้กลายเป็นแสงตายไปนัยก็สลบไปเลย”
นัยเริ่มจำความได้ว่าตัวเขานั้นได้จัดการอสูรรามิได้และก็ไม่รู้สึกตัวอีก
เมื่อนึกได้จึงถามถึงเรื่องที่ไปฝึกร่างกายเมื่อสักครู่
“อ๋อ ก็กะจะให้นัยไปฝึกร่างกายให้แข็งแรงและทนทานต่อพลังเวทย์ที่ใช้
เราก็จะไปฝึกด้วย นัยคงไม่รีบไปหาอาจารย์ที่ใจกลางป่าใช่ไหม”
“ก็ไม่รีบหรอกไปฝึกกันก็ได้”นัยพูด
“งั้นเราพาไปที่ ‘น้ำตกวารี’
ที่นั่นไว้สำหรับฝึกร่างกายคนที่รับเลี้ยงเราพามาบ่อยๆ”
“แล้วจะไปเมื่อไหร่ล่ะ”
“ก็พรุ่งนี้เช้าละกัน นี่ก็จะเช้าแล้วรีบนอนก่อนเถอะ”
“อือ..”สิ้นเสียงของทั้งสองคนทั้งคู่ก็หลับไปสนิทโดยไม่อาจรู้ได้ว่ามีอันตรายกำลังรอเขาอยู่
‘หึ วันนี้รอดไปได้นะ นิรนัย’พรึบเสียงกระโดดออกไปจากพุ่มไม้ไกลออกไปแต่กรยังพอได้ยินแว่วๆจึงรู้สึกตัว
‘รึว่าเราคิดไปเอง นอนดีกว่า’
เช้าวันใหม่ของป่าไมทยังคงเหมือนเดิมสัตว์อสูรตัวน้อยใหญ่
บ้างก็กำลังตื่นบ้างก็กำลังจะเข้าที่พัก เนื่องจากแสงสว่างก็ทำให้อสูรบางชนิดกลัวได้
นัยและกรเห็นแสงตะวันส่องเข้าตาจึงได้ลืมตาตื่นขึ้นอย่างงัวเงีย
“อรุณสวัสดิ์ เป็นไงเช้านี้”
“อ้าว กรอรุณสวัสดิ์ ตื่นแล้วหรอ ยังคงปวดๆตัวนิดๆน่ะ”
“อือก็ยังพอมีอาการอ่ะนะ ไม่แปลก”
“อือ คงงั้น”
“ไปล้างหน้าล้างตากัน เราจะไปเช้าๆนี่ล่ะ”
“อ่าๆได้สิ”นัยลุกขึ้นจากที่นอนและไปล้างหน้าที่ลำธาร
น้ำใสสะอาดไหลผ่านไปมองเข้าไปเห็นอสูรกำลังเล่นน้ำกันสนุกก็อดนึกไม่ได้
‘นี่เรา...เอาน้ำที่อสูรเล่นมาล้างหน้าหรอเนี่ย’
กรเดินเข้ามาพอดี
“ไม่ต้องกลัวหรอกลำธารแห่งนี้สะอาดอยู่แล้วมันเชื่อมกับน้ำตกวารี
ทำความสะอาดเองในตัวและยังมีคุณสมบัติทำให้เราสดชื่น และตื่นตัวขึ้นได้มากเลย”
นัยเห็นกรบอกดังนั้นก็วางใจได้และเขาก็รู้สึกสดชื่นขึ้นจริงๆ
เมื่อมองให้ดีป่าไมทอินเน็ซแห่งนี้ก็ดูจะมีความสุขดี
อยู่อย่างวิธีของอสูรใช้ชีวิตไปมาอย่างร่าเริงนัยก็อยากมีชีวิตที่สบายอย่างนี้บ้าง
เสียงของกรดังขึ้นเรียกนัยให้ไปกัน
เนื่องจากไม่มีของนัยจึงไม่ต้องจัดของอะไรเพียงแต่ทำกระเป๋าไว้ใส่หินหรืออาวุธเอาไว้ป้องกันตัวเท่านั้น
“ไปกันเถอะสายแล้ว”
“อือ”นัยตอบอย่างโดยดี
ทั้งคู่เดินทางมาได้ระยะก็พักชมทัศนียภาพของป่า
และเมื่อเหนื่อยจึงพัก
“เราพักกันก่อนเถอะ เราน่าจะไปถึงน้ำตกวารีในตอนเย็นนะ”กรบอกขึ้นหลังจากคำนวณเวลา
“อ้อ นึกได้แล้ว”กรพูดขึ้น “แหวนของนัยได้มาจากไหนหรอ
สวยดีนะแล้วตอนสู้กับอสูรรามิมันเรืองแสงออกมาด้วย”
“อ๋อ ก็ได้มาจากการคัดเลือกตัวแทนเข้าเรียนโรงเรียนวิซาร์ด มันได้มาแบบงงๆไงไม่รู้เรายังไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน”
“โหงั้นนี่ก็....”กรทำท่าตกตลึง “แหวนแห่งฟรีโฮลดใช่ไหม?”กรทำท่าตกใจ
“อือใช้ทำไมหรอ”
“เค้าว่ากันว่าหายากสุดๆเลยล่ะ และมันยังมีอำนาจพิเศษแตกต่างกันไปใครได้เป็นผู้ครอบครองนี่
สุดยอดดดดด”กรพูดอย่างตื่นเต้นสุดๆ
“นัยใชคดีมากที่ได้มานะรักษาไว้ให้ดีล่ะ”กรพูดเป็นการเตือน”แต่ว่าแหวนวงนี้มันทำไมเป็นเหมือนหินล่ะ”
นัยเพิ่งสังเกตเห็น “ก็จริงแหะ”นัยพูดต่อ“แต่ของสิ่งไหนมีข้อดีก็ต้องมีข้อเสียน่า”
“อือ...ก็จริง”
“นี่ก็พักมานานและไปต่อกันเถอะ”นัยพูดขึ้นตัดบทเพราะเห็นท่าว่าจะนาน
นัยและกรเดินทางมาไกลก็ถึงน้ำตกวารีตอนค่ำๆจึงตกลงพักที่นี่เพราะไม่มีสัตว์อสูรที่เป็นอันตราย
ทั้งคู่ได้ทำที่นอน ก่อไฟและหาอะไรกินแถวนั้น
น้ำตกวารีมีความสวยงานเป็นอย่างมาก
น้ำไหนจากหน้าผาลงมากระทบหินข้างล่างละอองน้ำกระจายฟูเป็นละอองน้ำ
เมื่อยามกลางวันสะท้อนแสงตะวันระยิบระยับ ยามกลางคืนสะท้อนแสงจันทร์
น้ำก็เหมือนเรืองแสง มีอสุรนกบินวนรอบๆน้ำตกอย่างรื่นรม
“เรานอนกันเถอะวันนี้เดินทางมาเหนื่อยแล้ว พรุ่งนี้เราจะฝึกซ้อมกัน”
“อือ เราก็เหนื่อยเหมือนกัน”
“วันนี้วันจันทร์เสี้ยว ดวงดาวยังคงส่องแสงสวยงามเหมือนเดิมเลยนะ”กรพูดขึ้น
“เราหลังทางมากี่วันแล้วนะ”นัยถามขึ้น
“ไม่รู้สิเดินทางจนลืมวันลืมคืน”
“อยากไปให้ถึงดวงดาวดวงนั้น อยากจะทำตามที่ตัวเองฝัน”
“นัยฝันอยากทำอะไรหรอ”
“ไม่รู้สิเรายังไม่มีความฝันเป็นของตัวเองเลย”
“ทำไมไม่หาความฝันล่ะ
เราอยากเป็นจอมเวทย์ที่ยิ่งใหญ่และปกครองโลกเวทมนตร์ให้สงบสุข”กรพูดขึ้น
“เราคงมีซักวันมั้งที่จะหาความฝันเจอ”
“ขอให้ไปถึงดาวดวงนั้นนะ”
“ราตรีสวัสดิ์”
“ราตรีสวัสดิ์....”
เงียบเสียงทั้งคู่ก็หลับทันทีจากความเหนือยล้า
‘นัย นัย นัย นัย’
‘นั่นเสียงใคร’นัยพูดขึ้นหลังจากได้ยินเสียงหญิงผู้หนึ่ง
‘นัย นัย นัย นัยย นัยยย น้ายยยย’เสียงโหยหวยเรียกนัย
‘นั่นเสียงใคร ตอบมา’
‘ช่วยด้วยนัย’
‘ใครกันแล้วจะให้ช่วยอะไร’นัยตอบกับสิ่งที่ตนเองไม่รู้ว่าคือสิ่งใด
‘ช่วยปลดผนึกฉันออกไป ช่วยปลดผนึกฉันออกไป ช่วยปลดผนึกฉ้านนออกป้ายยย’เสียงโหยหวนดังขึ้นอีกครั้ง
‘ปลดผนึกอะไรกัน’
นัยไม่ได้ฟังคำตอบแต่มีบางสิ่งโพล่ออกมา
นัยระวังตัวอย่างดี แต่สิ่งที่นัยเห็นกำลังพุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว
รูปร่างของหญิงสาวผมยาว หน้าตาหน้าเกลียด มีโซ่ถูกล่ามไว้ หน้าเละไปหมด
สวมชุดที่ขาดรุ่งริ่ง
‘ปลดผนึกฉันและนายจะได้ทุกอย่าง ฮ่าๆๆๆๆ’หญิงห้าตาหน้าเกลียดพูดเสียงดังและตะโกนใส่หน้าของนัย
…………………………………………………………………………
“นัย นัย เป็นอะไร นัย นัย”
“เฮ้ย!! อย่าเข้ามา”นัยตะโกนร้องเสียงดังลั่นพร้อมสะดุ้งตื่น
“ความฝันหรือเนี่ย”นัยพูดขึ้นเบาๆและยังมีเหงื่อท่วมตัว
มีอาการเหนื่อยและยังกลัวสิ่งที่อยู่ในความฝัน
“เราว่านายไปล้างหน้าล้างตาเถอะ ฝันร้ายสิ น้ำตกวารีจะช่วยให้ดีขึ้นได้”
“อือ...”นัยตอบอย่างเหนื่อยๆ
และได้ลุกไปล้างหน้าล้างตาอาการก็ดีขึ้นมาก
หลังจากเตรียมของเสร็จแล้วกรจึงพูดขึ้น
“เราจะฝึกซ้อมกันแล้วนะ ไปกันเถอะ”
“อือ ไปกันเถอะ”
นัยและกรเดินทางไปที่น้ำตกกรเห็นนัยเงียบๆจึงได้ชวนคุย
“นี่ยังนึกเรื่องฝันอีกหรอ แล้วฝันมันเป็นยังไงล่ะ”
“ก็มีผู้หญิงหน้าตาหน้าเกลียดมาบอกว่า ให้ปลดผนึกให้แล้วจะได้ทุกอย่าง”
“ฝันก็คือฝันน่า ไม่ต้องเครียด อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดนะ”
“ก็จริง”
“ลืมมันไปเถอะมีสมาธิในการฝึกร่างกายกันดีกว่า”
“อือไปกันเถอะ”นัยสูดหายใจเข้าลึกและปล่อยออกมาทำให้โล่งใจขึ้นมา
“เราจะให้นายฝึกขั้นต้นก่อนนะ ให้ลองนั่งตรงที่น้ำไหลผ่านก่อน”
นัยได้นั่นลงในน้ำก็พบว่าแทบจะไหนไปกับน้ำจึงรีบกระโดดขึ้นมามาจากน้ำ
“นี่ล่ะนัยต้องนั่งบนน้ำนี้ให้ได้ก่อนอื่นเราค่อยๆฝึกกันก่อนก็ได้เราจะช่วย”กรบอก
“ขอบใจนะ”นัยขอบใจ
ทั้งคู่ได้ลองฝึกซ้อมดูกันโดยกรก็นั่งให้ดูก่อนว่าน้ำกระทบกรแล้วกรไม่ไหลไป
กรบอกว่าให้เราค่อยๆตั้งสมาธิและต้องฝึกออกกำลังกายทุกๆวัน
กรเลยให้นัยเริ่มฝึกสิ่งต่างๆที่เป็นพื้นฐานสำคัญก่อนคือออกกำลังกายทุกๆวัน
“เอาเป็นว่าตอนนี้จะให้นัยวิ่งทุกๆวันรอบน้ำตกเราจะวิ่งไปด้วย
อย่าคิดว่าวิ่งแล้วจะง่ายนะเพราะเราจะใส่เวทย์ไว้รอบๆตัวนัยให้หนักอึ้งไปเลย”
“โหเหมือนแกล้งกันแต่เอาเถอะเพื่อร่างกายแข็งแรง”
“เริ่มเลยนะ เริ่มได้”
นัยรู้สึกทันทีว่าตัวหนักขึ้นมาและได้ออกตัววิ่ง
แต่วิ่งได้ไม่นานก็เหนื่อย
“มันต้องฝึกแบบนี้หล่ะ ถึงจะดี”กรพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดี
เมื่อพักสักครู่พอหายเหนื่อย
นัยก้ออกไปวิ่งต่อแต่พอวิ่งได้ไม่นานก็เหมือนจะเจออะไรบางอย่าง
“นั่นมันสัตว์อสูรระดับสูงนี่นา มา...มาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง”กรพูดขึ้นอย่างตกใจ
“อะไรนะ!!!สัตว์อสูรระดับสูง”
ข้างหน้าเป็นอสูรคลายๆสไลด์ตัวสีฟ้าดูน่ากลัวเพราะสายตาแดงก่ำ
ดูโหดร้าย
“แต่ทำไมดูแปลกๆนะ”กรพูดขึ้นทั้งที่อยากจะก้าวขาแต่กลับก้าวไม่ออก
“เราว่ารีบหนีกันเถอะทำไมก้าวขาไม่ออกนะ”นัยพูดขึ้น
“เป็นเวทย์ยึดหน่วง”
“เตรียมตัวตายเถอะไอหนูทั้งหลาย”อสูรสไลด์เริ่มพูดขึ้นพร้อมทั้งมีวงเวทย์ขึ้นที่เบื้องหน้าของอสุรสไลด์
เริ่มมีบางสิ่งออกมาจากวงเวทย์
มันคือน้ำที่เป็นสายพุ่งออกมาจากวงเวทย์พร้อมทั้งจะพุ่งมาทางกรและนัยที่ไม่สามารถขยับได้
“อ๊ากกก”นัยและกรเกรงพลังไว้แต่ก็ดดนพลังเวทย์เต็มๆทั้งคู่ร้องลั่นหลังจากโดนพลังเวทย์เข้าไป
“หึโดนอีกทีไม่รอดแน่”
อสูรสไลด์เตรียมตัวจะยิงเวทย์อีกครั้ง
“ฉันต้องการพลัง ปลดผนึกแหวนแห่งฟรีโฮลด”นัยตะโกนขึ้นดังลั่นทั้งๆที่ไม่ตั้งใจจากนั้นก็มีเสียงผู้หญิงดังขึ้น
“ฉันรอเวลานี้มานานแล้ว และแกไออสูรสไลด์ชั้นต่ำ
จงตายซะรายต่อไปก็คือแกเจ้านัย”หญิงหน้าตาหน้าเกลียดออกมาจากไหนไม่เป็นที่รู้แต่สิ่งที่เธอจำอย่างแรกคือฆ่าสไลด์และนัย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น