Wizard King ศึกชิงราชันจอมเวทย์
ตอนที่ 2 โชค
“เตรียมจัดการได้แล้ว
มีเหยื่อมาให้ถึงที่เลย”
“หึๆอย่างว่า
ได้ลาภแล้วเรา ดูท่าน่าจะง่ายนะ”
“อืองั้น...ลุย!!!”
นัยได้เดินทางเข้าป่ามา
โดยมีป้ายเขียนไว้ที่ทางเข้าว่า ‘เขตต้องห้าม’ ตอนแรกนัยก็นึกกลัวอยู่ว่ามันเป็นเขตต้องห้ามแต่จะให้เข้าไปก็ยังไงอยู่
ได้แต่นึกถึงวิชาที่ตัวเองฝึกมาและที่อาจารย์บอกไว้ว่าไม่ต้องกลัวมัน ให้เข้าไปเลย
แม้นัยจะไม่อยากเข้าไปแต่ก็ต้องทำใจ
ในป่านี้มีชื่อว่า “ไมทอินเน็ซ(mightiness)”
มีอสูรมากมายในป่า และก็ยังมีเจ้าแห่งป่า“ไมทอินเน็ซคิง”หรือเรียกกันในนามว่าราชาเน็ซ ทุกคนที่เข้าไปใกล้มันจะถูกมันทำร้ายจนถึงตายหรือจนกว่ามันจะพอใจ
แต่ก็น้อยคนนักที่จะเจอมันเพราะเวลาส่วนใหญ่มันจะบินไปที่หุบเขาแห่งความตาย
ไปรวมตัว 3 เทพอสูร แห่งแผ่นดินใหญ่ แผ่นดินรองและแผ่นดินเล็ก
ต้นๆป่ายังมีแต่อสูรตัวน้อยๆทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นสไลด์ ตัวตุ่น สัตว์ทั้งหลาย
เอาไว้ให้เป็นอาหารได้เพราะจะไม่ทำร้ายเรา และไม่มีอันตราย
นัยเดินมาได้ระยะหนึ่ง
เจออสูรตัวน้อยก็จับมาดูเล่นและก็ปล่อยออกไปตามทางเดิน จนมาถึงทางแยกทางหนึ่งจึงได้หยิบแผนที่ในกระเป๋ามาดู
“อืม...ไปทางไหนน้า”นัยพึมพำเบาๆและยกแผนที่ขึ้นดู
จากนั้นก็ได้ยินเสียงอะไรสักอย่างข้างหลังจึงหันไปดู
‘เสียงอะไร
หรือเราหูฝาด’นัยนึกขึ้นและหันมาดูแผนที่ต่อ
พรึบ!!แผนที่ในมือของนัยและสิ่งของในกระเป๋าของนัยหายไปต่อหน้าต่อหาของนัย
สิ่งที่เห็นเป็นเพียงเงาดำๆผ่านหน้าไปเท่านั้น
“เฮ้ย แผนที่
กระเป๋า หายๆๆๆ”
“หึ ไปเถอะธีฟ”
“อ้อไออิอิน
แอ้วอ้ออาอ่วยอืออองอ้วย”เสียงของอสูรหัวขโมย 2 ตัวคุยกัน
อสูรตัวพี่นามว่า‘พรินซ์’และตัวน้องนามว่า‘ธีฟ’และกำลังจะวิ่งจากไป
“เฮ้ย!!เอาของฉันคืนมาเดี๋ยวนี้นะไออสูรหัวขโมย”
นัยไม่รอช้ารีบควบคุมพลังเวทย์ให้มารวมกันตรงที่มือ
พลังเวทย์มีแสงสีฟ้าออกมาจากมือและรวมกันเป็นลูกกลมๆและปล่อยออกไป
ตู้มม!!เสียงระเบิดดังขึ้นแต่กลับไม่โดนอสูรเลยแม้แต่น้อยอสูรนั้นมีความเร็วมากกว่าพลังเวทย์ที่ปล่อยออกไป
จึงกระโดดหลบได้อย่างง่ายดายและเพียงไม่นานอสูร 2 ตัวพี่น้องหัวขโมยก็วิ่งหายลับไปจาก
“แล้วเราจะไปยังไงต่อล่ะเนี่ย”นัยยังนึกหาวิธีที่จะไปต่อแต่ไม่ทันไรก็เห็นแสงพุ่งออกมาจากป่าจึงวิ่งเข้าไปดู
แสงสีเหลืองอมฟ้าที่พุ่งออกมาจากป่าสว่างขึ้นเป็นระยะๆพร้อมกับเสียงระเบิด
นัยวิ่งเข้าไปเท่าไหร่แสงก็สว่างขึ้นเรื่อยๆ จนเข้าไปถึงสถานที่ที่เป็นต้นตอของแสง
เห็นเงาของชายผู้หนึ่งสวมชุดคลุมเวทย์ กำลังวิ่งไล่ตามอสูรหัวขโมยอยู่
“เฮ้ย!!อสูรหัวขโมย”นัยตะโกนด้วยความโมโห
“มันมาแล้ว ไปกันเถอะธีฟ”
“อ้ออาอ่วยอืออองแอ้วไออักอีอี่ อัดโอ่เอ้ย”
ตู้ม!!พลังเวทย์โดนเข้าที่อสูรหัวขโมยจนมันกระเด็นไปไกลกว่าสิบเมตรและชายผู้ใช้เวทย์ก็เข้าไปหยิบของของนัยมา
“นี่ของนายหรอ”
“ครับ
ขอบคุณมากครับ”
“พอดีเดินผ่านมาแล้วเห็นน่ะ
เลยไปเอามาให้”ชายผู้นั้นบอก “จะไปใจกลางป่าไมทหรอ
ไปด้วยกันไหม”
“หือ..ใจกลางป่าไมท”นัยสงสัย
“ก็ที่นายจะไปไม่ใช่หรอเห็นในแผนที่”
“อ่อ
ครับก็ได้ครับ”นัยตอบตกลงด้วยความดีใจที่มีเพื่อนเดินทางไปด้วยและทั้งสองก็เริ่มเดินทางต่อไป
พรึบ!!แผนที่และสิ่งของจากตัวของนัยหายไปอีกครั้ง
“เฮ้ย
ของไปไหนอีกแล้วเนี่ย”
“นา...นายไปเร็ว”ชายพูดตะกุกตะกัก
นัยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ชายผู้นั้นกระชากวิ่งไปแล้ว
เพียงพริบตาเดียว ก็มีอะไรแวบๆที่ข้างกายของนัย
มันคือสัตว์อสูรตัวใหญ่กว่าอสูร
2 ตัวก่อนมีลักษณะคล้ายกัน ต่างกันที่ตัวใหญ่และมีตัวสีเหลือง
“มันคือหัวหน้าไอสัตว์อสูรหัวขโมยน่ะ
เร็วกว่า3เท่าเลย และยังมีพลังเวทย์ อีกตอนนี้เราสู้ไม่ไหวแน่ได้แต่หนี”ชายผู้นั้นพูดขึ้น
หลังจากนั้นก็หยิบระเบิดในกระเป๋าขึ้นมาและโยนไปข้างหลังโดนสัตว์อสูรเต็มเปา
สัตว์อสูรชะงักไปครู่หนึ่งแต่วิ่งฝ่าระเบิดออกมาและพุ่งเขามาตะปบร่างของนัยและชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว
“อึก”
“อั่ก”
นัยและชายหนุ่มนั้นกระเด็นออกไปพร้อมอสูรก็เข้าไปขโมยของอีกครั้ง
“อย่าริจะมาทำร้ายลูกของข้า
จำไว้ซะพวกมนุษย์”อสูรพูดลาก่อนจะวิ่งหายไปในป่า
“อึก...โอยย”นัยค่อยๆลืมตาขึ้นหลังจากสลบไป
ก็ได้เห็นชายหนุ่มเพื่อนของเขานั่งก่อกองไฟอยู่
“อ้าว
ตื่นแล้วหรอ”ชายผู้นั้นพูด“นายสลบไปตั้งแต่เช้ายันเย็นเนะ”
“โอย เจ็บจัง”
“นายเป็นแผลน่ะสงสัยโดนเจ้าอสูรตบเอาโดนเอวน่ะ”ชายหนุ่มพูดต่อ “แล้วนายชื่ออะไรล่ะว่าจะถามอยู่”
“อ้อ
เราชื่อนัย นายล่ะ”
“เราชื่อกรน่ะ
กรชัย”
“แล้วเราจะเอาไงต่อล่ะแผนที่ก็ไม่มี”นัยนึกขึ้นจึงถามกรดู
“อืม..ไม่รู้สิคงต้องเดินทางเองแล้วล่ะ”กรหยุดครู่หนึ่ง “ดูจากทางเนี่ยเราหลงป่าแล้วล่ะ”
“ห๊า
เราหลงป่าหรอ จะทำไงดีเนี่ยตอนเนี้ย”
“นายจะไปใจกลางป่านี่นา
เราก็จะไปเดี๋ยวไปด้วยกัน แก่อนอื่นเรามาฝึกเวทย์กันก่อนเถอะ นายยังไม่มีอาวุธสินะ”กรบอก “ก็หาอะไรทำเป็นอาวุธไปก่อนละกันนะ”
“อือ”นัยตอบอย่างโดยดี
“เราเป็นผู้ใช้อาวุธประดิษฐ์
ก็จะนำพวกหินหรืออะไรเนี่ยมาใส่เวทย์ลงไป”กรพูดต่อ “ตอนที่ใช้ระเบิดนั้นด้วยมันคือการนำหินอักพลังเวทย์ใส่เข้าไปอย่างรวดเร็วและก็โยนไป
เวทย์ก็จะระเบิดออก”
นัยฟังอย่างเงียบๆ
“แล้วนัยล่ะใช้เวทย์อะไร”
“เอ่อ
ไม่รู้สิอาจารย์สอนมาให้ทำแบบเนี้ยเค้าเรียกว่าอะไร”นัยชูมือขึ้นมาและเรียกพลังเวทย์ออกมาเป็นลูกกลมๆสีฟ้าและปล่อยออกไป
“อืม..เวทย์ขั้นต่ำสุด
เวทย์พื้นฐานน่ะ”กระพูดต่อ“ของเราก็คล้ายๆของนัยนั่นเหละ
เพียงแต่ของนัยทำให้มันอยู่บนมือและปล่อยออกไป
แต่ของเราก็แค่หาของมาไว้บนมือและอัดพลังเวทย์ไปในสิ่งของ ก็นั้นแต่จะยากตรงที่เวลาอัดต้องควบคุมเวทย์ภายนอกและภายในให้ดี
ไม่งั้นของที่เราถือจะแตก”กรว่าต่อ“ลองทำดูสิ
นัยหยิบหินตรงนั้นมาและอักพลังเวทย์เข้าไป
แต่หินกลับแตกกระจาย
“อ้าว
แตกและเลย”นัยพูดขึ้น
“แรกๆก็ยังได้หรอกเอาเป็นว่าค้างที่นี่จนกว่าจะฝึกเวทย์ได้ละกัน”กรพูดขึ้นพร้อมทั้งไปหยิบฟืนมาเพิ่ม
นัยฝึกเวทย์ที่กรสอนให้ไปเรื่อยๆฝึกไปได้5วันก็เริ่มชำนานขึ้น
จึงได้เริ่มออกเดินทางอีกครั้ง ระหว่างทางก็ฝึกไปพลาง และหาอาวุธมาเพิ่มเรื่อยๆ
กรและนัยเดินทางมาได้1วันก็ตัดสินใจหยุดพักที่ใกล้ๆหน้าผาแห่งหนึ่ง
“เราพักที่นี่เถอะ
เย็นมากแล้วสัตว์อสูรจะออกหากินเอา”
“อือได้สิเหนื่อยแล้วด้วย”
กรและนัยได้กางม่านพลังเวทย์ที่เรียนมาเอาไว้ป้องกันสัตว์อสูรตัวน้อยจากนั้นก็หาอะไรมากินกันและก็ได้นอนเมื่อเริ่มดึก
“ดาวนี่สวยจัง”นัยพูดขึ้น
“อืม...สวยจัง”กรพูดขึ้นพร้อมกับน้ำตาไหลออกมาจากตา
นัยเห็นจึงได้ถามขึ้น “เป็นอะไรหรอกร”
“ไม่เป็นไรหรอก
แค่นึกถึงพ่อกับแม่น่ะ พ่อแม่เราถูกฆ่าตายในสงครามพ่อมด จากไอคนชั่วที่เป็น
‘Wizard King’คนปัจจุบันมันต้องการเป็นใหญ่เลยฆ่าทุกคนที่ขวางหน้า
ตอนนั้นเรายังเป็นเด็กอยู่”
“เรื่องก็มีอยู่ว่า..............
เมื่อ15ปีก่อน
ตอนที่พ่อของเรากำลังจะไปทำงาน
‘พ่อไปทำงานแล้วนะแม่’
‘จ้า
เดี๋ยวแม่ดูลูกให้นะ’
‘ก่อนพ่อไปขอหอมไอลูกชายกรตัวดีหน่อยเถอะ’
‘อ้อ แอ้’
‘ว้าวพูดได้นิดนึงแล้วสิ’
‘จ้า
พ่อไปเถอะสายแล้ว’
‘จ้าๆไปแล้วๆ’
ปัง!!เสียงปะตูกระเด็นออกมาตามด้วยเสียงของชายหนุ่มพูดขึ้น
‘มาเป็นพวกกับเราซะ
ไม่งั้นตาย’
‘ใครจะไปเป็นพวกไอคนชั่วว่ะ’ย้าก!!พ่อของกรชักดาบขึ้นและพุ่งไปที่ชายหนุ่ม 2 คน
ตู้มม!!เสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมทั้งร่างของพ่อกรกระเด็นไป
‘แส่หาเรื่องจังนะ
ตายเถอะแก’
ตู้ม!!เสียงระเบิดอีกที่ทำให้พ่อของกรตายคาที่
‘อุแว้ อุแว้
อุแว้’
‘พ่อ!!’แม่ของกรร้องไห้เสียงดัง กับความตายของพ่อ
‘อยากได้อะไรเอาไปเลยๆ
แต่ไว้ชีวิตเราเถอะนะ’
‘หึๆ
ฆ่ามันและเผาให้หมด และก็เอาทรัพย์สินมาไปเว้ยเรา’
‘ครับ นาย’
‘อย่า.........’
ฉึกเสียงดาบแทงแม่ของกรที่ปกป้องลูกของนาง
‘ปลอดภัยสินะกร
อึกก...’
‘อุแว้ๆๆๆๆ’
‘เผาซะ
ไปกันเถอะ ฮ่าๆๆๆๆๆ’
เสียงไฟไหม้บ้านของกรรแต่กรกลับไม่เป็นอะไรเพรามีเวทย์ของผู้เป็นแม่ป้องกันไว้
และใจขแงกรก็แค้นคนที่ฆ่าพ่อแม่ของเขาตั้งแต่นั้นมา
…………………
“จากนั้นก็มีคนมีช่วยเราออกไป
และได้เลี้ยงดูเรา และได้ให้เรามาหาอาจารย์ที่นี่”กรเล่าทั้งน้ำตาแห่งความแค้น
“เราต้องฆ่าไอพวกนั้นให้หมด”
นัยได้ฟังก็สงสารจึงของเป็นอีกคนที่จะช่วยแก้แค้นและได้ยินเสียงบางอย่าง
“เสียงอะไรน่ะ”นัยพูดขึ้น
“นั่นสิ
เสียงอะไร”
แสงสีแดงส้ม
เป็นดวงตาจ้องมาที่นัยและกร นับ20ดวง
“นั่น..อสูรรามิ
อสูรหมู่หากินเวลากลางคืน ระวังนะนัย มันเร็วมาก”
ยังไม่ทันจะพูดจบนัยและกรก็ได้ถูกวงล้อมของอสูรรามิล้อมไว้กว่า
20 ตัว
นัยและกรรู้หน้าที่ของตนเอง
รีบหยิบก้อนหิน เศษไม้และผนึกเวทย์ลงไป จากนั้นก็ปล่อยออกไประเบิดตรงหน้า
ตู้ม!!เสียงระเบิดดังขึ้นแต่อสูรรามิกลับไม่เป็นอะไรแม้แต่นิดเดียว
“สงสัยว่า
จะต้องหนีอย่างเดียวแล้วล่ะ”
“ก็ว่างั้น”
นัยและกรคิดหาทางหนีแต่ว่าสัตว์อสูรรามิกระโจนเข้ามาหานัยและกร
‘ไม่ทันแล้วทำยังไงดีเนี่ย’ทั้งสองคนคิดอย่างรวดเร็ว
ตู้ม!!!
“อ๊ากกกกกกกกกกกกก”เสียงของทั้งสองคนร้องขึ้นและได้ล้มลงไปพร้อมทั้งอสูรรามิล้อมไว้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น