วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2555

Wizard King ศึก ชิงราชันจอมเวทย์ ตอนที่ 1 การคัดเลือก


 

                                         ตอนที่ 1 การคัดเลือก

      ในยุคของเวทยมนต์มีคนใช้เวทย์มนต์และจอมเวทย์มากมายถ้าผู้คนที่ไม่มีเวทยจะต้องหาคนที่มาคุ้มครองตนเองให้ได้ ดังนั้น เวลามีลูกหลานทุกคนย่อมต้องการให้ลูกได้เรียนโรงเรียนเวทย์มนต์เพื่อเป็นจอมเวทย์ที่คอยปกป้องตนเองจากอันตรายต่างๆและเป็นจอมเวทยที่ยิ่งใหญ่ และเป็นผู้นำสูงสุดของโลกเวทยมนต์ ซึ่งมีสิทธิบรรชาการของโลกเวทย์มนต์ได้ หรือเรียกว่า ‘Wizard King’ 
“นี่นัย ตื่นเดี๋ยวนี้นะ” เสียงผู้เป็นแม่ปลุกเด็กชายนามว่า ‘นิรนัยหรือนัย’ ซึ่งเป็นลูกของนางในยามเช้าเพื่อไปรับการคัดเลือกจากดวงตราจอมเวทย์ ณ โรงเรียนวิซาร์ด โรงเรียนเวทย์มนต์ประจำแผ่นดินใหญ่ 
“อือ...อีกนิดน่าแม่”นัยบอกอย่างงัวเงีย 
“ตื่นเดี๋ยวนี้เลย” ซ่า เสียงของน้ำราดบนที่นอนของนัยทำให้นัยต้องลุกขึ้นมาจากที่นอนอย่างเร่งด่วนเพราะเขารู้ดีว่าถ้ายังนอนอยู่จะเป็นอย่างไรต่อ 
“โธ่แม่ ไม่ต้องสาดก็ได้”นัยพึมพำเบาๆโดยไม่ให้แม่รู้ว่าพูดอะไร 

หลังจากที่นัยอาบน้ำแต่งตัวเสร็จนัยก็รีบไปโรงเรียนเพื่อจะเข้ารับการคัดเลือกของโรงเรียน นัยได้ลงชื่อและกรอกประวัติส่วนตัว จากนั้นได้เดินดูชมโรงเรียนไปพลางๆ 
‘โห ใหญ่จังเหะสวยด้วยถึงจะดูดำๆมึนๆ แต่นี่ก็โรงเรียนพ่อมด นี่นะ’ โรงเรียนนี้มีความใหญ่พอสมควร เป็นปราสาทหลังใหญ่ มีสนามฝึกซ้อมของโรงเรียน มีตึกมากมาย ทางเดินลึกเข้าไปจนถึงอาคารที่ใหญ่ที่สุดและหลังอาคารใหญ่มีป่าหนาทึบ  
‘ป่าอะไรนะดูน่ากลัวจัง’ 
“ทุกคนมารับการคัดเลือกได้ ณ บัดนี้”นัยได้นึกเรื่องโรงเรียนอยู่ ได้ยินเสียงก็สะดุ้งและรีบมารับการคัดเลือกโดยลืมไปว่ากำลังสงสัยเรื่องป่าแห่งนั้นอยู่   

“อาจารย์ชื่อ คิสเตอฟอร์ บัดนี้ ถึงเวลาอันสมควรแล้วที่จะได้รับการคัดเลือก แต่ก่อนอื่นจะอธิบายการคัดเลือกของ ‘ดวงตราจอมเวทย์’ก่อน ‘ดวงตราจอมเวทย์’คือดวงตราอันศักดิ์สิทธิของแผ่นดินใหญ่ เป็นสิ่งที่จะคัดเลือกนักเรียนของแผ่นดินใหญ่ เมื่อคนใดได้รับการคัดเลือก ‘ดวงตราจอมเวทย์’จะเปล่งแสงออกมาแสดงถึงผ่านการคัดเลือกได้’’ หลังจากที่อาจารย์อธิบายมาอย่างยืดยาว ก็ถึงเวลาคัดเลือกเลือกแล้วเป็นเวลาที่ทุกคนรอคอยมานาน 
“นักเรียน ‘พีรนนท์’ ลำดับที่ 1 คนแรก มาเข้ารับการคัดเลือก ณ บัดนี้”ตามที่อาจารย์บอก เมื่อคนใดผ่านการคัดเลือก‘ดวงตราจอมเวทย์’จะเปล่งแสงเรืองๆออกมาและถือว่าเป็นการผ่านการทดสอบ 
ทุกคนถูกเรียกมาเรื่อยๆบางคนผ่านและไม่ผ่านไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาที่นัยรอคอย 
“นักเรียน ‘นิรนัย’ ลำดับที่ 112,750 คนสุดท้าย มาเข้ารับการคัดเลือก ณ บัดนี้” 
นัยได้เดินไปที่‘ดวงตราจอมเวทย์’จากนั้นก็มีแสงพุ่งออกมาจาก‘ดวงตราจอมเวทย์’เรืองๆ 
‘เราคงได้รับคัดเลือกแล้วสินะ’ด้วยความดีใจของนัยทำให้นึกว่าได้รับคัดเลือกแล้วแต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น แสงเรืองๆกลับดับไป ‘อะไรกัน!!ทำไมแสงถึงดับไปนะ’ 
“นักเรียน ‘นิรนัย’ไม่ผ่านการคะ...’’ยังไม่ทันสิ้นเสียงของอาจารย์แสงสีส้มเหลืองปนเขียวสว่างจ้าออกมาจาก‘ดวงตราจอมเวทย์’สว่างจ้าไปทั่วโรงเรียน เจิดจ้าจนทำให้ทุกคนต้องหลับตา 
‘นี่...มันอะไรกันเนี่ย’ 
‘นี่มัน....ไม่น่าเชื่อ เด็กนี่’ 

เวลาผ่านไปเพียงไม่นาน แต่รู้สึกเหมือนหยุดหายใจไปเป็นชั่วโมง หลังจากที่แสงหายไปทุกคนค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้าๆและเห็นเงารางๆจาก‘ดวงตราจอมเวทย์’ ทุกคนยังสงใสว่าเงานั้นคืออะไรแต่เสียงบางอย่างก็ดับความสงสัย
“นักเรียนผู้นั้นชายผู้ถูกเลือก ในฐานะที่ข้าคือ‘ดวงตราจอมเวทย์’ข้าขอมอบสิ่งๆนี้ให้แก่ท่าน”เสียงแก่ๆพูดอย่างช้าๆสิ่งนั้นคือ‘ดวงตราจอมเวทย์’ 
“อะไรกัน!! ‘ดวงตราจอมเวทย์’อย่างนั้นหรอ” 
“นี่มันอะไรกัน” 
“……” 
เสียงของนักเรียนทุกคนดังแซดกับความตกใจที่ว่า‘ดวงตราจอมเวทย์’จะมีชีวิตได้อย่างไร 
“ท่านจงรับสิ่งนี้ ชายผู้ถูกเลือก” 
แสงเก็ดขึ้นอีกครั้งแต่เป็นเพียงแสงนวลๆและสิ่งของที่อยู่ภายในแสง 
“ทำไมข้าถึงได้มันล่ะ”นัยถามด้วยความสงสัย“ทำไมข้าถึงได้มันแต่คนอื่นกลับไม่ได้สิ่งนี้ ทำไมล่ะ?” 
“แปลกถ้าเป็นคนอื่นคงจะรับไปแล้ว แต่ซักวันท่านจะรู้เอง” 
“รับไว้ซะนิรนัย มันเป็นสิ่งที่นายต้องได้”เสียงของอาจารย์คิสเตอฟอร์พูดขึ้นหลังจากเงียบไปนาน 

นัยยังไม่ทันจะพูดอะไรสิ่งที่นัยได้รับก็เข้ามาสวมที่นิ้วของเขาเอง สิ่งนั้นเป็นแหวนมีตัวมังกรอยู่ข้างบนสีเงาเทา 
หลังจากที่นัยได้รับแหวนนี้แล้วทุกอย่างก็กลับเป็นปกติ‘ดวงตราจอมเวทย์’กลับเป็นเช่นเดิมทุกอย่างเป็นเช่นเดิมแต่กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความสงใสของแต่ละคน 
“ทุกคนไปทำตามหน้าที่ของตัวเองแยกย้ายไปแต่ นักเรียน ‘นิรนัย’มากับอาจารย์”เสียงของอาจารย์คิสเตอฟอร์ทำลายความเงียบและทำให้เหตุการณ์กลับเป็นปกติเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

นัยได้เดินมาพร้อมกับอาจารย์คิสเตอฟอร์มายังห้องของอาจารย์เป็นห้องที่ใหญ่พอสมควร มีหนังสือมากมายเรียงล้อมห้อง สิ่งของมากมาย มีโคมไฟสลัวๆอยู่ตามมุมต่างๆของห้องและผนัง 
“นั่งก่อนสิ”อาจารย์คิสเตอฟอร์เริ่มพูดหลังจากตั้งแต่เดินมา 
“ครับ” 
“สิ่งที่เธอได้ แหวนแห่งฟรีโฮลด (free hold) ของในตำนานซึ่งมีไม่กี่คนเท่านั้นที่มี ความจริงฉันก็ไม่ได้รู้อะไรมากจากแหวนวงนี้แต่มีสิ่งที่คล้ายกันมันคือแหวนแห้งฟรีโฮลดเหมือนกัน ต่างกันตรงที่ของเธอเป็นมังกรอยู่บนแหวนใช่ไหม” 
“ครับ มังกรที่มีปีกคลุมตัว” 
“แต่ของอีกวงเป็นสุนัขจิ้งจอก 2 หาง ที่ฉันเจอเหตุการณ์นี้เป็นครั้งที่2 หลังจากนักเรียนของฉัน ‘พิทยาธร’ที่เป็นคนแรก เป็นคนที่ปลุก‘ดวงตราจอมเวทย์’ให้มีชีวิตได้ ฉันก็รู้มาว่าคนที่จะปลุก‘ดวงตราจอมเวทย์’ให้มีชีวิตได้เป็นคนทีมีอำนาจมากพอหรือมีสิ่งที่พิเศษสำหรับตัวเอง พิทยาธรเป็นตนที่มีความสามารถมากในด้านการใช้เวทย์มนต์เขาสามารถเรียนจบของขั้นศาสตราจารย์ได้เพียงแค่4ปีแต่เขากลับนำไปใช้ในทางที่ผิด ใช้ในการทำร้ายคนอื่น เขาบ้า 

อำนาจของตัวเอง เขาได้เป็น ‘Wizard King’เพราะเขาเป็นพ่อมดที่สูงที่สุด”อาจารย์เงียบไปพักหนึ่งพร้อมกับทำหน้าเศร้า“ฉันผิดหวังกับเขามาก ฉันไม่น่าไปสอนเขาให้ใช้เวทย์มนต์เลย” 
“….” 
“หึ...ความจริงฉันจะมาเล่าให้เธอฟังทำไมกัน มาเข้าเรื่องเลยดี ฉันจะบอกเพียงว่าสิ่งที่เธอได้เป็นสิ่งที่มีอำนาจพิเศษบางอย่างแตกต่างกันไป จงหามันให้พบอาจารย์บอกได้แค่นี้หล่ะ” 
“คะ...ครับ”นัยฟังจนเพลินและนึกขึ้นได้อะไรบางอย่างที่อยากจะถาม 
“อาจารย์คับคือว่า.....”นัยนึก “ป่าด้านหลังโรงเรียนมันคืออะไรหรอครับ”  
“เขตต้องห้าม มีอสูรมากมายระวังอย่าไปไกลละกัน แต่....”อาจารย์เว้นไปซักครู่ “อาจารย์จะให้เธอไปที่นั่น” 
“ว่าไงนะคับ!!จะให้ผมไปที่นั่น” 
“ใช่ ฉันว่าเธอคงเรียนธรรมดาไม่ได้แน่ๆ”อาจารย์ว่าต่อ “อาจารย์ว่าเธอไม่ต้องเรียนที่นี่เธอเข้าป่าต้องห้ามไปเลยและให้เธอไปตามที่แผนที่นี้ซะ ที่นี่คือที่อยู่ของอาจารย์ของอาจารย์ อดีตของ‘Wizard King’ท่านจะช่วยสอนเธอเอง” 
‘อะไรกันเนี่ย จะให้เข้าป่าต้องห้ามทั้งที่รู้ว่าอันตราย โอวววชีวิตช้านอะไรกานเนี่ย’นัยนึกถึงชะตาชีวิตของตัวเอง 
“แต่ก่อนอื่น ฉันจะสอนเวทย์มนต์ขั้นต้นเธอก่อน”อาจารย์ว่า “รอแปปนะ เอ..อยุ่ใหนนะ นี่ไง” 
อาจารย์คิสเตอฟอร์ลุกขึ้นไปหยิบหนังสือกับบางสิ่งออกมาจากชั้นหนังสือ  
‘หนังสือแห่งฟรีโฮลด’นัยอ่านชื่อหนังสือที่อาจารย์ได้หยิบมา 
“นี่‘หนังสือแห่งฟรีโฮลด’ให้เธอนำติดตัวไปสำหรับดูมันจะทำ 

ให้เธอเรียนอะไรเกี่ยวกับแหวนเธอได้เร็วขึ้น”อาจารย์เงียบไปทำท่าเหมือนคิดอะไรบางอย่าง 
“ฉันคิดดูแล้ว คงไม่ทันถ้าจะให้เธอฝึกเวทย์เอง ฉันจะถ่ายทอดโดยวิธีลับเลยละกัน หันหลังมาและทนเจ็บนิดหน่อยนะ” 
นัยหันหลังให้อาจารย์คิสเตอฟอร์และอาจารย์คิสเตอฟอร์ก็ถกเสื้อขึ้นจากนั้นก็ทำปากเหมือนท่องอะไรบางอย่างเริ่มมีแสงสีฟ้าออกมาจากมือจากนั้นอาจารย์คิสเตอฟอร์ก็กระแทกอย่างแรงเข้าที่หลัง 
“อ๊ากกกก!!”นัยร้องเสียงดังลั่น 
‘นี่มันอะไรกัน’ 
“ทนเจ็บหน่อยน่า” 
แสงสีฟ้าพุ่งออกมาจากมือของอาจารย์คิสเตอฟอร์ลงที่หลังของนัย ค่อยๆเกิดอักขระ มันเป็นอักขระรวมกันเป็นรูปมังกรตัวเท่ากำมือ 
“เจ้าจะไม่สามารถทำอะไรได้ไปอีก3วัน3คืน จงพักผ่อนซะฉันจะดูแลเจ้าเอง ฉันเองก็ไม่เหลือแรงแล้วเหมือนกันการถ่ายทอดเวทย์โดยวิธีลับจะทำให้เสียพลังงานเป็นอย่างมาก” 
‘จริงด้วยนื้วขยับไม่ได้เลย’นัยนึกพลางขยับนิ้ว 

ผ่านไป3วันร่างกายของนัยเริ่มกลับมาเป็นปกติ เริ่มทำอะไรได้หลายอย่าง 
“การใช้เวทย์มนต์นั้นไม่ยาก แค่รวบรวมพลังไว้ที่นิ้วและมือและปล่อยออกไป เจ้าอาจจะต้องฝึกมันซัก4-5ชั่วโมงเพราะเจ้ายังไม่เคยใช้ วันนี้ก็ฝึกไปพรุ่งนี้ฉันจะให้เธอออกไปป่าวันพรุ่งนี้” 
“ครับ” 
หลังจากนั้นนัยได้ฝึกพลังเวทย์ที่ได้มาทั้งวันจนสามารถทำ 


ได้คล่องแคล่วสามารถปล่อยได้ที่ละ2ลูกและมี2ระดับคือสีแดง และน้ำเงิน อาจารย์คิสเตอฟอร์บอกว่า ‘นี่เป็นเพียงเวทย์ขั้นต้นเท่านั้นจงใช้มันให้ผสมผสานให้ลงตัวฝึกฝนไปจนทำให้มันเป็นสิ่งที่ป้องกันตัวเองให้ได้’ และอาจารย์คิสเตอฟอร์ได้มอบชุด สัมภาระและอาวุธดาบให้ป้องกันตัว 
วันรุ่งขึ้นนัยได้ออกเดินทางพร้อมลาอาจารย์ไป 
“ผมไปล่ะนะอาจารย์ ขอบคุณทุกๆสิ่งที่ให้ผมมานะครับ” 
“ขอให้โชคดีนะไอหนู” 
“ครับ ท่านอาจารย์ที่รัก” 
จากนั้นนัยได้เดินออกไปทางหลังโรงเรียนเดินทางเข้าป่าไปแต่เช้าตรูแสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาป่าเรืองๆเป็นการเริ่มแรกและแรกเริ่มสำหรับการเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ของนัยโดยไม่รุ้ว่าจะมีสิ่งใดอยู่ข้างหน้ารู้เพียงว่าเป้าหมายตอนนี้คือเส้นทางอันยาวไกลที่จะพาให้เราไปเจอในสิ่งที่ต้องการได้.......

by Pit (นามปากกา)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น